รายละเอียด

ประวัติความเป็นมา เดิมนายณรงค์เป็นคนจังหวัดลพบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพลิเก โดยพ่อเป็นคนตีระนาดและแม่เป็นนางเอกลิเก นายณรงค์เกิดและเติบโตมาจากคณะลิเกเมื่อเริ่มโตขึ้นจึงตามรอยพี่สาวและพี่ชายเข้ามาช่วยงานคณะลิเกของครอบครัว และเมื่อปี2508นายณรงค์และครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่โคราชซึ่งในขณะนั้นครอบครัวไม่ได้ทำอาชีพลิเกแล้ว ปี2511นายณรงค์ได้ไปเป็นลูกน้องในคณะลิเกและเกิดความคิดว่าทำไมเราไม่ทำคณะลิเกเองเพราะคนในครอบครัวก็เป็นลิเกเก่ากันทั้งนั้น คณะลิเกณรงค์พร ทรงพล เริ่มก่อตั้งปี2512 ในระยะแรกที่ตั้งคณะลิเกก็ประสบปัญหาล้มลุกคลุกคลาน จนกระทั้งปี2533 ลูกชายของนายณรงค์ทั้ง2คนก็ได้เข้ามาเป็นพระเอกลิเกใน๕ณะ จึงทำให้คณะเริ่มมีงานเข้ามาเรื่อยๆและมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้

ชื่อโต้โผหรือเจ้าของคณะ คุณณรงค์ มะลิพวง

ชื่อพระเอก คุณพรชัย ทรงพล

ชื่อนางเอก คุณพรพรม ทรงพล

ชื่อตัวโกง คุณสันติชัย ทรงพล

ชื่อตัวตลก คุณจิ้งจก และคุณเสรี ทรงพล

ดาวร้าย

โอกาสในการแสดง

             งานฉลองชัยชนะท่านท่าวสุระนารี (งานย่าโม)

             งานเทศกาลประจำปีของจังหวัดต่าง ๆ

             แสดงเปิดงาน (งานเปิดตลาดคลังมาเช่ ณ อำเภอโชคชัย)

เนื้อเรื่องที่แสดง อุทัยเทวี เทพศิลป์ อินทรจักร

ความเห็นของโต้โผ

             ปัญหาของการประกอบอาชีพลิเกในปัจจุบัน : “ปัจจุบันลิเกไม่ค่อยได้รับความนิยมเหมือนในสมัยก่อน งานที่จ้างก็น้อยลง ดังนั้นตัวนักแสดง นักดนตรี หรือคนงานในคณะ ต้องออกไปหาอาชีพเสริมเพื่อที่จะได้มาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ถ้าจะมารอแต่งานในคณะคืนละไม่เกิน1500ก็คงจะอยู่กันไม่รอด และจะเห็นได้ว่าตลกลิเก พระนางลิเกคนแก่ๆเก่าๆตอนนี้ก็จะไม่มีเงินและไม่มีเงิน เพราะไม่รู้จักเก็บเงินเกิบทอง ไม่เหมือนหนุ่มๆสาวๆที่เค้าสามารถมีงานทำและเก็บเงินไปด้วยได้”

อนาคตของลิเกโคราช

              “อนาคตของลิเก ในมุมมองของผม ก็คิดว่าไม่หายแต่ก็น่ากลัวว่าจะหาย คือในปัจจุบันคนที่เล่นลิเกก็ยังมีงานอยู่ แต่จะเล่นตามต่างอำเภอหรือจังหวัด ไม่ค่อยได้เล่นในเมือง คนก็เลยไม่ค่อยเห็นกันและด้วยหน้าที่การงานของคนสมัยนี้ต่างจากเมื่อก่อน ความสนใจเรื่องลิเกก็น้อยลง โรงลิเกก็มีแค่โรงเดียว คนจะจ้างงานก็ไม่ค่อยจะมี มันก็เลยทำให้เราเห็นว่าเหมือนลิเกจะหายไป แต่ยังไงผมก็เชื่อว่าลิเกไม่มีทางหมดไปจากประเทศไทยแน่นอน เพราะยังมีกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มที่เขายังรักการดูลิเกและชื่นชมในศิลปวัฒนธรรมแบบนี้อยู่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ที่จะทำให้ลิเกยังอยู่คู่สังคมไทยต่อไปก็คือการปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นหลังรับรู้และภาคภูมิใจในศิลปะการแสดงที่เรียกว่าลิเกซึ่งเสมือนเอกลักษณ์ของคนไทย"

รางวัลเกียรติยศ

             โล่ประกาศเกียรติคุณ การเข้าร่วมสนับสนุนงานการกุศล “มหกรรมลิเกเฉลิมพระเกียรติ เพื่อผู้ป่วยที่ยากไร้”ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมหามงคลวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554

หัวเรื่อง

ลิเกโคราช

ข้อมูลการติดต่อ