ผ้าไหมหางกระรอกโคราช


รายละเอียด

ความเป็นมา

     ผ้าไหมหางกระรอกโคราช สันนิษฐานว่าเป็นวัฒนธรรมการทอผ้าของกลุ่มชนไท-ลาว และไท-เขมร ที่อยู่ในพื้นที่อีสานใต้ ซึ่งเมืองโคราชมีกลุ่มชนไท-ลาว กระจายอยู่ทั่วไป และมีกลุ่มชนไท-เขมร ปะปนในบางพื้นที่ คนกลุ่มนี้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทอผ้าไว้ใช้ในครัวเรือน แบ่งปันพี่น้อง แลกเปลี่ยนสิ่งของที่จำเป็นไว้ใช้ในครัวเรือน รวมถึงขายเป็นรายได้ของครอบครัว และผ้าไหมโคราช มีชื่อเสียงมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และเมืองโคราช ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งทอผ้าไหมหางกระรอกได้สวยงาม นับเป็นผ้าชั้นดีมีคุณค่าของเมืองโคราช

การทอผ้าหางกระรอก 

     ผ้าหางกระรอกมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานที่ยังค้นหาจุดเริ่มต้นไม่ได้ คาดว่าเป็นการประยุกต์ของช่างทอผ้าที่คิดสร้างลวดลายในเนื้อผ้าบนผ้าพื้นเรียบ ให้เกิดลายเคลือบสีขึ้นมาในตัว จากเส้นพุ่งที่ใช้ทอ ซึ่งเป็นเทคนิคการทอผ้าแบบใหม่ ที่ยากกว่าการทอผ้าพื้นเรียบธรรมดา เพราะช่างทอต้องมีความประณีต ระมัดระวัง นับจากการทำเส้นไหมให้มีเส้นเล็กขนาดเสมอกัน ตลอดที่จะใช้ทอผ้าทั้งผืน ทั้งเส้นพุ่ง และเส้นยืน การย้อมสีให้สม่ำเสมอ การคิดให้สีโดยคำนึงถึงว่า เมื่อนำเส้นไหมสองเส้นสองสี หรือ สามเส้น สามสีมาตีเกลียวควบเข้าด้วยกัน 

     ลายเหลือบสีบนเกลียวเส้นไหมโดดเด่นขึ้นมาได้อย่างไร จะใช้เกลียวที่มีระยะเกลียวเสมอกัน ทั้งเกลียวถี่และเกลียวห่างอย่างไร จะต้องตีเกลียวกี่รอบ ที่สำคัญคือ เมื่อนำเส้นไหมหางกระรอกที่ตีเกลียวแล้ว หรือ เส้นลูกลาย นำมาพุงบนเส้นยืน จะต้องจัดเรียงเส้น เรียงเกลียวอย่างไร จึงจะทำให้เกิดลวดลายเป็นเกลียวคลื่น ยอดคลื่นแหลม ยอดคลื่นป้าน รวมถึงจะสอดเส้นสีสลับกันอย่างไร พุ่ง 2 กระสวย หรือ 3 กระสวย ผ้าผืนนั้นจึงจะงดงาม นอกจากนี้ การคิดทำริ้วเชิงชายทั้ง 2 ด้าน ของผืนผ้า ควรจะใช้เทคนิคอะไร สีอะไร ที่จะทำให้ผืนผ้านั้นโดดเด่นขึ้น รวมถึงวัตถุประสงค์ของการทำริ้วเชิงชายผ้าหางกระรอกทั้งสองด้านนั้น ทำขึ้นเพื่ออะไร ยังไม่พบคำตอบ ผู้รู้บางท่านให้ความเห็นว่าเป็นการกำหนดความยาวของผ้า

กรรมวิธีในการทอผ้ากระรอก

     วิธีการทอผ้าหางกระรอกเหมือนกับการทอผ้าไหมทั่วไป เพียงแต่ใช้ไหมเส้นไหมลูกลาย เป็นเส้นพุ่ง การตีเกลียวควบเส้นไหม 2 เส้น 2 สี ให้เป็นเส้นเดียวนั้น ต้องใช้ไหมน้อยคัดพิเศษ (ไหมพื้นบ้าน) รวมถึงใช้เข็มทองเกลาเส้นไหมด้วย เพื่อให้ได้เส้นไหมขนาดเล็กสม่ำเสมอ ไม่มีขุยขน เป็นเหตุผลหนึ่งให้ช่างทอส่วนใหญ่ นิยมใช้ไหมโรงงานมาทำเส้นลูกลาย เช่น ช่างทอเขตอำเภอปักธงชัย นิยมใช้ไหมนอก หรือ ไหมจุรี คือ ไหมเทียมชนิดหนึ่ง ทำจากเส้นเรยอง ซึ่งญี่ปุ่นส่งเข้ามาจำหน่ายก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะมีเส้นเล็กละเอียดกว่าไหมพื้นบ้าน

     โดยเส้นไหมที่ใช้ทอกันมากมี 2 ขนาด คือ 

- ไหมควบ 2 เส้น เรียกว่า ไหม 2 ปรวด (ปะ-หรวด) ใช้ทำทางยืน เพราะเส้นเล็กผ่านฟืมได้สะดวก

     ด้วยความยากในการทอ ผ้าหางกระรอกจึงมีความสำคัญ และมีคุณค่าของครอบครัว จะถูกนำมาใช้เฉพาะในพิธีกรรมสำคัญ เช่น การบวช การตาย และส่งต่อกันมาเป็นมรดกของครอบครัว

     ปัจจุบัน ผ้าไหมหางกระรอก ทอด้วยกี่กระตุก ใช้เส้นไหม และตีเกลียวสำเร็จรูปจากโรงงาน 

หัวเรื่อง

ผ้าพื้นเมืองจังหวัดนครราชสีมา

หมวดหมู่

ผ้าพื้นเมือง

ข้อมูลการติดต่อ

ที่อยู่:อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000

รายการอ้างอิง

  1. กรมหม่อนไหมจัดการประกวดเส้นไหมไทยพื้นบ้าน ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานผลิตภัณฑ์จากรังไหม/ผ้าไหมและการออกแบบชุดผ้าไหม. สืบค้นเมื่อ 30 สิงหาคม 2557, จาก http://qsds.go.th/newqsds/file_news/67.pdf