ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลำดับที่ 12
ดำรงตำแหน่งเมื่อ 2466 - 2472
ประวัติ
วันเดือนปีเกิด วันอาทิตย์ที่ 12 ก.พ. 2424 มรณะ 14 มี.ค. 2480 ตรงกับวันจันทร์ เดือน 4 ขึ้น 13 ค่ำ ปีฉลู เวลา 13.30 น. ท่านก็ถึงแก่อนิจกรรมโดยอาการอันสงบ คำนวณอายุได้ 57 ปี
ภูมิลำเนาจังหวัด ต.ศาลาแดง อ.บางแก้ว จ.อ่างทอง
ชื่อ-สกุลบิดา นายโต สุวรรณิน
ชื่อ-สกุลมารดา นางพัน สุวรรณิน
สถานภาพครอบครัว สมรสกับ คุณหญิงเป้า พิริยะวิชัย
บุตร 1 คน
1. เฟ็นต์ (ถึงแก่กรรมภายหลังบิดาไม่สู้ช้านัก จึงได้ทำการฌาปนกิจศพพร้อมกับพระราชทานเพลิงศพ พระยาพิริยะวิชัยคราวนี้ฯ)
ด้านการศึกษา
เมื่อเยาว์ได้เล่าเรียนหนังสือไทยในสำนักโรงเรียนหลวงวัดชัยมงคล จังหวัดอ่างทอง เรียนอยู่ 3 ปี สอบไล่ได้ประโยคหนึ่งหนังสือไทย ได้รับประกาศนียบัตร และเข้ารับราชการแต่นั้นมา
ด้านการทำงาน
2438 เสมียนศาลจังหวัดอ่างทอง
2439 เสมียนมหาดไทยจังหวัดอ่างทอง
2441 - 2443 กองอัยการจังหวัดอ่างทอง
2444 - 2448 แพ่งจังหวัดอ่างทอง
2449 ยกกระบัตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2450 - 2454 ยกกระบัตร จังหวัดสระบุรี
2455 - 2456 ยกกระบัตร จังหวัดนครศรีธรรมราช
2457 - 2461 ปลัดมณฑลประจำจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดอุบลราชธานี
2462 - 2465 ข้าหลวงประจำจังหวัดแพร่
2466 - 2472 ข้าหลวงประจำจังหวัดนครราชสีมา
บรรดาศักดิ์
2454 รองอำมาตย์โท
2457 อำมาตย์ตรี
2461 อำมาตย์โท
2466 อำมาตย์เอก
2452 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร เป็นขุน ประสงค์ศุขการี
2455 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร เป็นหลวง ประสงค์ศุขการี
2458 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร เป็นพระ ประสงค์ศุขการี
2464 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนขึ้น เป็น พระยาพิริยะวิชัย
เหรียญตราทางราชการที่ได้รับ
2452 ได้รับพระราชทานเหรียญรัชชมังคลาภิเศก
2454 ได้รับพระราชทานเหรียญบรมราชาภิเศก รัชกาลที่ 6
2467 ได้รับพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา พ.ศ. 2468 ได้รับพระราชทานเหรียญบรมราชาภิเศก รัชกาลที่ 7
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
2460 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ เบ็ญจมาภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ ๕
2463 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ จตุตรถาภรณ์มงกุฎสยาม ชั้น ๔
2469 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ จตุตรถาภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ 4
นอกจากหน้าที่ราชการดังกล่าวแล้ว พระยาพิริยะวิชัย ยังได้เป็นสมาชิกเสือป่าอีก คือ
2454 เข้าเป็นสมาชิกเสือป่า กองร้อยที่ 4 จังหวัดสระบุรี
2455 ย้ายไปอยู่กองร้อยที่ 2 จังหวัดนครศรีธรรมราช
2457 ย้ายไปประจำการอยู่กองร้อยที่ 4 จังหวัดสุรินทร์
2458 เลื่อนขึ้นเป็นนายหมู่ใหญ่ อยู่ในกองร้อย ที่ 4 จังหวัดสุรินทร์
2459 - 2461 เลื่อนขึ้นเป็นนายหมวดตรี นายหมวด โท และนายหมวดเอก ในกองร้อยที่ 4 จังหวัดสุรินทร์
2462 ย้ายไปเป็นผู้บังคับกอง กองร้อยเดินข่าวที่ 10 จังหวัดแพร่
2465 เป็นนายกองตรี คงประจำการอยู่กองร้อย ที่ 10 จังหวัดแพร่นั้น
2466 ย้ายไปเป็นผู้บังคับการกรม กรมเสือป่าราบ จังหวัดนครราชสีมา
2467 เลื่อนขึ้นเป็นนายกองโท กรมเสือป่ารักษา ดินแดน จังหวัดนครราชสีมา
บุคคลสำคัญ