"ขี้เหล็ก" เป็นพืชยืนต้น ใบอ่อน ยอดอ่อน และดอกขี้เหล็ก นำมาแกงให้รสอร่อยมาก แกงขี้เหล็กให้คุณค่าอาหาร และยังเป็นอายุวัฒนะ เพราะใบขี้เหล็กเป็นยาขับปัสสาวะ ยาระบายและเป็นยากล่อมประสาท หมายถึง ยาที่ช่วยให้จิตใจสบาย ไม่หงุดหงิด ทำให้หลับสบาย นอกจากนั้น ข่า ตะไคร้ กระชาย ยังเป็นยาขับลม ช่วยระบบทางเดินอาหารอีกด้วย
ส่วนผสม
1. ใบขี้เหล็ก | 1/2 | กิโลกรัม (ต้มแล้ว) |
2. กระชาย | 1 | ช้อนโต๊ะ |
3. กระเทียม | 3 | ช้อนโต๊ะ |
3. ข่า | 1/2 | ช้อนโต๊ะ |
4. กะปิ | 1/2 | ช้อนโต๊ะ |
5. เกลือ | 1 | ช้อนชา | 6. ตะไคร้ | 1/2 | ช้อนโต๊ะ |
7. น้ำปลา | 2 | ช้อนโต๊ะ |
8. น้ำปลาร้า | 2 | ช้อนโต๊ะ | 9. ใบย่านางคั้น | 1 | ถ้วยตวง |
10. ปลาย่างหรือปลาฉลาด | 3 | ตัว |
11. พริกแห้ง | 3-7 | เม็ด |
12. หอม | 1/2 | ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
1. โขลก ข่า กระเทียม ตะไคร้ กระชาย เกลือ พอละเอียด ใส่พริกแห้ง ผ่าแกะเม็ดออก แช่น้ำไว้แล้วบีบให้แห้ง โขลกพอแหลก ใส่หอมแดง กะปิ เมื่อละเอียดดีแล้ว ใส่เนื้อปลาฉลาดเล็กน้อยลงไปโขลกให้เข้ากัน
2. นำใบขี้เหล็กที่ต้มจนหมดขมแล้วใส่หม้อที่มีน้ำใบย่านาง ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ตั้งไฟจนเดือด ใส่เนื้อปลาหรือเนื้อวัวย่าง
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา
4. หากเป็นแกงกะทิ น้ำแกงคือกะทิและน้ำใบย่านางปนกัน โดยน้ำใบย่านางจะต้องคั้นให้ข้นผสมลงในน้ำกะทิ
เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
บางท้องถิ่นอาจใช้เนื้อวัวย่าง แทนปลาย่าง
อาหารท้องถิ่น