ชื่อวิทยาศาสตร์ | Pithecellobium dulce (Roxb.) Benth. |
ชื่อวงศ์ | FABACEAE (LEGUMINOSAE-MINOSOIDEAE) |
ชื่ออื่น | มะขามข้อง (แพร่) มะขามเทศ (ภาคกลาง) |
ลักษณะวิสัย: | ไม้ต้นขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ สูง 8-10 ม. |
ต้น | เปลือกเรียบและมีหนามลำต้นสีเทาแกมขาวหรือเทาดำ ในตำแหน่งรอยก้านใบ (leaf scar) ลำต้นสีเทาแกมขาวหรือเทาดำ |
ใบ | ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ออกแบบเรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่กลับหรือรูปรู ฐานใบเบี้ยว ปลายใบมน ขอบใบเรียบ |
ดอก | ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกแน่นทรงกลม เกิดที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเขียวแกมขาว ติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉก ปลายกลีบมน เกสรเพศเมีย 1 อัน |
ผล | แบบฝัก ทรงกระบอกมีรอยคอดตามแนวสันและเปลือกนูนตามจำนวนเมล็ด ผลขดเป็นวงหรือเป็นเกลียว ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีแดง เนื้อผลเมื่อแก่จัดสีขมพูหรือสีแดง เมล็ดสีดำมันคล้ายฟองน้ำ |
รส | หวาน ฝาด |
การขยายพันธุ์ | การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง |
ประโยชน์ | เปลือก ต้มเอาน้ำใช้ล้างบาดแผลสด ช่วยสนามแผล ห้ามเลือด หรือดื่มแก้อาการท้องร่วงท้องเสีย และน้ำมีรสฝาดนำมาย้อม แห อวน เนื้อมะขามเทศรับประทานได้ |
ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร | ผล |
พฤกษาพรรณบรรณสาร : ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี