(พ.ศ. 2464-15 พ.ค. พ.ศ. 2542 สิริอายุ 78 ปี 57 พรรษา)
ภูมิลำเนา: บ้านหนองโดน ต.หนองหนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี เป็นบุตรคนเดียว บิดามารดาอาชีพทำนา เมื่ออายุได้ 4 ขวบ บิดามารดาได้เสียชีวิต ญาติจึงรับไปอุปการะเลี้ยงดูที่ บ้านโคกพุทรา ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
บรรพชาและอุปสมบท:
- พ.ศ. 2479 ได้บรรพชา ณ วัดอินทสุวรรณ บ้านโคกพุทรา ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร อุปสมบท ณ วัดปทุมวนาราม ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลังจากบรรพชาแล้วได้เริ่มเรียนนักธรรมจนได้นักธรรมตรี ต่อมาเดินธุดงค์จาก อ.สว่างแดนดิน ไป จ.อุบลราชธานี พักอาศัยที่วัดบูรพารามเป็นเวลา 3 ปี เมื่อเรียนจบบาลีชั้นต้น สอบได้นักธรรมเอก และศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน กับ ท่านอาจารย์เสาร์ กนุตศีลเถระ
- พ.ศ. 2482 สอบนักธรรมชั้นโทได้ที่สำนักเรียนวัดสุปัฏวนาราม
- พ.ศ. 2483 สอบนักธรรมชั้นเอกที่ได้สำนักเรียนวัดสุปัฏวนาราม
- พ.ศ. 2484 พระอาจารย์เสาร์ ได้พาหลวงพ่อไปฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถระ ณ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เรียนหนังสือบาลีและสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ได้ในขณะเป็นสามเณร
- วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 เมื่ออายุครบบวช 21 ปี จึงได้อุปสมบท ณ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และในช่วงสงครามเอเซียบูรพา ท่านได้อพยพ กลับไปจำพรรษาที่ วัดบูรพา จ.อุบลราชธานี และท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนั้นจนถึงปี พ.ศ. 2489 ระหว่างนั้น ท่านได้อาพาธอย่างหนักด้วยวัณโรค มีหมอมารักษาตั้งหลายคน แต่แล้วก็สู้ไม่ไหว ต่อมาท่านได้พบกับ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และหลวงปู่ฝั้นก็ได้ช่วยรักษาโดยการให้ตั้งใจเพ่งอาการ 32 โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ไม่ต้องพิจารณาเรื่องอื่น หลวงพ่อพุธทำตามอุบายของหลวงปู่ฝั้นทันที แรก ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอพิจารณาหนักเข้าๆ ปรากฏว่ามีผลมาก ใช้เวลารักษาตัวอยู่ประมาณ 10 ปี โรคร้ายจึงหายขาด
ด้านการศึกษา:
- พ.ศ. 2479 บรรพชาที่สำนักสงฆ์บ้านโคกพุทรา ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
อุปสมบท ณ วัดปทุมวนาราม ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
หลังจากบรรพชาแล้วได้เริ่มเรียนนักธรรมจนได้นักธรรมตรี ต่อมาเดินธุดงค์จากอำเภอสว่างแดนดินไปจังหวัดอุบลราชธานี พักอาศัยที่วัดบูรพารามเป็นเวลา 3 ปี เรียนจบบาลีชั้นต้น สอบได้นักธรรมเอกและศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานกับท่านอาจารย์เสาร์ กนุตศีลเถระ
- พ.ศ. 2483 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พักอาศัย ณ วัดปทุมวนาราม เรียนและสอบได้เปรียญธรรม 3
ตำแหน่งงานปกครองคณะสงฆ์:
- เป็นผู้ช่วยเจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
- พ.ศ. 2495-2496 เป็นเจ้าอาวาส วัดแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ
- พ.ศ. 2500 เป็นเจ้าคณะอำเภอวารินชำราบ
- พ.ศ. 2511 เป็นเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ
- พ.ศ. 2513 เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลัน
- ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาฝ่ายธรรมยุต
สมณศักดิ์:
- พ.ศ. 2512 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระชินวงศ์ศาจารย์ และเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระภาวนาพิศาลเถระ
- พ.ศ. 2527 สมณศักดิ์เป็น พระราชสังวรญาณ
เกียรติคุณ:
- พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร
- พ.ศ. 2536 ได้รับประกาศเชิดชูเกียรติผู้อนุรักษ์มรดกไทย สาขาภูมิปัญญา ในฐานะที่ท่านได้สั่งสอนอบรมธรรมะ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จากศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา
- 14 มิถุนายน พ.ศ. 2541 รางวัลผู้เผยแผ่วิปัสสนาดีเด่น
พุทธทายาท
ศาสนสถาน
พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)--ชีวะประวัติ