บิดา-มารดา: บิดาชื่อ อิน มารดาชื่อ ผึ่ง
- พ.ศ. 2473 บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร โดยมีพระพรหมมุนี (อ้วน ติสฺโส) เป็นพระอุปัชฌาย์
- พ.ศ. 2486 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระศาสนดิลก และเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมบัณฑิต
เป็นครูสอนปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี เป็นกรรมการตรวจข้อสอบนักธรรมสนามหลวง เป็นผู้จัดตั้งโรงเรียนสมเด็จ (โรงเรียนราษฎร์ของวัด) ที่วัดสุปัฏนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้สอนและอบรมศีลธรรมจรรยามารยาทแก่นักเรียน คณะครู และข้าราชการ
ด้านการเผยแผ่ศาสนา:
ได้เทศนาสั่งสอน อบรมศีลธรรมแก่นักเรียนและประชาชน เป็นผู้ให้กำเนิดยุวพุทธิกสมาคมอุบลราชธานี จัดให้มี ธรรมสวนะสามัคคี คือการฟังธรรมตามวัดในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ตลอดเทศกาลเข้าพรรษา เคยเป็นที่ปรึกษาเจ้ามหาชีวิตราชอาณาจักรลาว และไปอบรมศีลธรรมแก่ทหาร ตำรวจในเขตนครจำปาศักดิ์ ประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ท่านนำมาพัฒนาศาสนาในจังหวัดนครราชสีมา เช่น การดำเนินการจัดตั้งศูนย์การศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่วัดสุทธจินดา
ด้านสาธารณูปการ:
ได้ก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานตามวัดต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา เช่น วัดสุทธจินดา ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถวัดศาลาลอย สร้างเสนาสนะ 13 หลังให้เป็นที่เจริญสมณธรรมของฝ่ายกรรมฐาน ณ วัดป่าสาละวัน นับเป็นประโยชน์นานัปการแก่ประเทศชาติและพระศาสนามาจนกระทั่งทุกวันนี้
พุทธทายาท
บุคคล
สงฆ์