เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) หรือ เจ้าคุณตามืด


รายละเอียด

      เจ้าเมืองนครราชสีมาในสมัยกรุงธนบุรี เป็นพระบิดาบุญธรรมในเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา) พระราชโอรสองค์สุดท้ายในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นญาติกับพระยาพิชัยดาบหัก เริ่มรับราชการในสมัยต้นกรุงธนบุรี เป็นที่ยกกระบัตร ณ เมืองพิมาย ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนตำแหน่ง และบรรดาศักดิ์ขึ้นโดยลำดับ จนเป็นที่ "เจ้าพระยานครราชสีมา"

ภริยา จำนวน 3 คน และบุตร จำนวน 5 คน

- ท่านผู้หญิงนครราชสีมา (ท่านเดิม) มีบุตร 3 คน ได้แก่

1. พระยาภักดีสงคราม เจ้าเมืองนางรอง

2. พระยานครราชสีมา (เที่ยง ณ ราชสีมา)

3. พระยาสุริยเดช (ทัศน์ รายณสุข ณ ราชสีมา)

- เจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงจวน ในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งพระราชทานให้เป็นความดีความชอบขณะที่ทรงตั้งพระครรภ์

4. เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา)

- อนุภริยา ท่านอื่น มีบุตร 1 คน

5. พระราชานุชิต

      เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นอย่างมาก นอกจากได้รับพระราชทานเจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงจวน แล้ว ในบั้นปลายชีวิต เมื่อท่านชราภาพมากจักษุมืดมัวลง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นจางวางกำกับราชการเมืองนครราชสีมา โดยโปรดเกล้าฯ ให้ พระยาสุริยอภัย (ทองอิน) หรือ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าทองอิน กรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ เป็นพระยานครราชสีมาแทน คนทั้งหลายจึงเรียกว่า "เจ้าคุณตามืด" เชื้อสายและเครือญาติของท่าน ต่อมาได้มีบทบาทสำคัญในราชสำนักสยาม และในราชการบ้านเมือง

เกียรติประวัติ

ปราบนครเวียงจันทน์ อัญเชิญพระแก้วมรกต

     เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) เคยนำทัพนครราชสีมาสมทบทัพกรุงธนบุรี ยกไปปราบนครเวียงจันทน์ เมื่อคราวเจ้านครเวียงจันทน์ส่งกำลังล่วงล้ำเข้ามาในพระราชอาณาเขต พ.ศ. 2321 ครั้งนั้นเจ้าพระยานครราชราชสีมา (ปิ่น) เป็นกองหน้า รุดเข้าตีกองทัพเพี้ยอุปราชาแห่งนครเวียงจันทน์ มีชัยชนะกวาดจับครัวชายหญิงในเขตเพี้ยอุปราชาเป็นต้นได้มากกว่าพันคน เมื่อเสร็จราชการปราบนครเวียงจันทน์เรียบร้อยแล้ว กองทัพอัญเชิญพระแก้วมรกต ซึ่งพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช อัญเชิญไปจากนครเชียงใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2091 กลับคืนมายังพระนครธนบุรี ใน พ.ศ. 2322 เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ได้รับพระราชทานเพี้ยอุปราชา ท้าวเพี้ยและครอบครัวทั้งปวงที่ตีได้นั้นทั้งหมด

ได้รับพระราชทานเจ้าหญิงจวน

      ความปรากฏว่า ท่านผู้หญิงนครราชสีมา ถึงอนิจกรรมลงในระหว่างที่ท่านเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ยังปฏิบัติการรบอยู่ที่นครเวียงจันทน์ ครั้งเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ทำการรบกล้าแกร่งมีชัยชนะกลับมา เป็นเหตุให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตาเป็นอย่างยิ่ง ดังมีหลักฐานแจ้งอยู่ในประชุมพงศาวดารภาคที่ 73 หน้า 67 ว่า "...เจ้าหญิงยวน หรือ จวน (กนิษฐานของพระชนนีสมเด็จเจ้าฟ้าชายทัศพงศ์) พระราชทานแก่เจ้าพระยานครราชสีมาในทำนองคล้ายกับเมื่อพระราชทานเจ้าหญิงเล็กแก่พระมหาอุปราช (พัฒน) คือเจ้าพระยานครราชสีมา (ซึ่งเรียกกันในชั้นหลังว่า เจ้าคุณตามืด) ไปราชการสงครามมีความชอบอันยิ่งใหญ่ เวลานั้นประจวบด้วย เจ้าหญิงยวนทรงครรภ์แล้ว แต่ยังเพียงเริ่มต้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงพระกรุณาพระราชทานเจ้าหญิงยวนแก่เจ้าพระยานครราชสีมา แต่ก็รับพระราชทานไปเป็นแม่เมือง มิได้ถือเป็นภริยา ครรภ์ที่ประสูติออกมาเป็นเจ้าชาย ปรากฏพระนามว่า ทองอินท์ (ซึ่งต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้เป็นเจ้าพระยานครราชสีมา สิ้นชนมายุในรัชกาลที่ 3..."

ตั้งเมืองปักธงไชย

      เมื่อคราที่ชนะสงครามกลับมา เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ได้รับพระราชทานเพี้ยอุปราชา ท้าวเพี้ยและครอบครัวทั้งปวงที่ตีได้นั้นทั้งหมด ท่านจึงบัญชาให้เพี้ยอุปราชาและพวกไปตั้งประจำอยู่ที่ด่านกะโปะ ห่างจากนครราชสีมา ประมาณ 30 กิโลเมตร เมื่อกองเพี้ยอุปราชาตั้งอยู่ที่ด่านกะโปะ เป็นปึกแผ่นแน่นหนารวดเร็ว สมควรจัดตั้งเป็นเมืองหนึ่งได้ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) จึงกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตตั้งด่านกะโปะเป็นเมืองปักธงไชยขึ้นแก่นครราชสีมา และกราบทูลขอให้เพี้ยอุปราชาเป็นพระยาวงศาอัครราช เจ้าเมืองคนแรกของปักธงไชย

หัวเรื่อง

บุคคลสำคัญ

หมวดหมู่

บุคคล

คำสำคัญ

ผู้ว่าราชการจังหวัด, กษัตริย์และผู้ครองนคร